หลายๆคนวันนี้เข้าใจผิด คิดว่าเรื่องของบัญชีและภาษีมันคือเรื่องเดียวกัน และหลายๆครั้งที่ลูกศิษย์ที่เป็นเจ้าของกิจการ ก็คิดว่าวันนี้ตัวเองแสวงหากำไรมาแล้ว แต่เรื่องของบัญชีภาษีเนี่ยก็บอกว่าฝากให้คนทำบัญชีให้สำนักงานบัญชีช่วยจัดการให้ แต่ขอไปโฟกัสที่การแสวงหากำไรเท่านั้น พอเราไม่รู้มันก็เลยไม่ได้นำสิ่งนั้นมาใช้
ที่ผ่านมามันก็มีอยู่ช่วงนึงนะคะ รัฐบาลเองเขาออกมาตรการให้คนที่ทำธุรกิจในรูปของนิติบุคคล แล้วปรากฏว่ามีพนักงานที่อยู่ในระบบประกันสังคม เงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท ถ้าบริษัทมีการจ้างงานแล้วไม่มีการลดพนักงาน เค้าสามารถเอาค่าใช้จ่ายมาใช้ถึง 3 เท่า!!!
สมมุตวันนี้กับจ่ายเงินเดือนสัก 1 ล้าน แต่รัฐให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงนั้นนะคะ แทนที่คุณจ่ายไป 1ล้าน แต่คุณสามารถเอามาใช้ได้ถึง 3 ล้าน
แต่พอหลายๆกิจการที่ได้มา Private Consult กับอาจารย์ เจอตัวบอกว่า “ไม่เห็นรู้เรื่องเลยคนทำบัญชีไม่ได้บอกเลย สำนักงานบัญชีได้บอกเลย” แทนที่เราจะมีค่าใช้จ่ายเป็นหลักล้านอยู่ตรงนั้นน่ะ บางคนทิ้งเงินกันไปเป็นหลักสิบล้าน เพราะเรื่องของบัญชีกับเรื่องของภาษีมันแตกต่างกันนะคะ คนรู้บัญชีแต่ถ้าไม่ได้รู้ช่องของกฎหมายภาษีก็ทำให้นักธุรกิจที่เป็นเจ้าของกิจการ ทิ้งเงินไปหนักมาก
หรืออย่างเช่น บางครั้งเจ้าของกิจการ พอทำธุรกิจในรูปของนิติบุคคล สมมุตวันนี้เราเอง จะเอานิติบุคคลไปยื่นกู้กับธนาคารมันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่ธนาคารจะปล่อยเงินกู้ให้กับนิติบุคคลเลย ซึ่งจากเคสของลูกศิษย์ก็ได้ไปกู้มา กู้ส่วนบุคคลมาเป็นหลักสิบล้านเลยนะ แล้วเชื่อไหมคะ 10 ล้านตรงนี้ก็จะมีดอกเบี้ยจะต้องเสียภาษีให้กับทางธนาคาร แต่ไม่เคยได้นำเรื่องของดอกเบี้ยตรงนี้มาใช้เป็นค่าใช้จ่ายของกิจการได้เลย เพราะไม่ได้รู้เทคนิคที่จะนำมาใช้นั่นเองค่ะ